สวรรค์ของคนเป็นเชฟคงไม่มีอะไรที่มีความสุขไปมากกว่าการทำอาหารแล้ว ยิ่งถ้าใครที่พอจะฝีมือหน่อยก็ยิ่งชอบทำเพื่อฝึกความเชี่ยวชาญอยู่ตลอด แต่ถ้าใครที่เป็นเชฟขายอาหารแนว Fast Food ก็อาจจะใช้เวลาไม่มากเท่ากับเชฟที่ขายอาหาร เนื่องจากมันมีส่วนประกอบไม่กี่อย่าง ซึ่ง Happy Chef ก็จะมีเนื้อเรื่องคร่าว ๆ ให้เราได้อ่านก่อนจะเข้าสู่ตัวเกมด้วย แต่ถ้าใครขี้เกียจอ่านจะกด Skip ก็ได้
ระบบ Gameplay
เมื่อเข้าสู่ตัวเกม Happy Chef เราจะได้ทำการเลือกตัวละครขึ้นมา 1 จาก 4 ตัว ซึ่งตรงนี้ไม่มีผลอะไร ดังนั้น เราจะเลือกยังไงก็ได้ แล้วถ้าเข้าไปดูในส่วนของ Achievements เราก็จะเห็นเป้าหมายต่าง ๆ ที่ตัวเกมกำหนดมาให้ และต้องบอกว่า Version นี้เป็น Version ทดลอง มันจึงมีเพียง 15 Level เท่านั้น
ใครที่ต้องการเล่นมากกว่านี้ก็สามารถซื้อตัวเต็มได้ หลังจากที่รู้เรื่องแล้วเราก็จะเข้าสู่การเล่น โดยตัวเกมจะมีเป้าหมายมาให้หลายอย่างทั้งการให้บริการให้ครบตามจำนวนลูกค้า หรือไม่ก็หาเงินให้ครบตามกำหนด แต่ทั้งนี้ตัวเกมก็จะมีการสอนก่อนด้วย
โดยขั้นแรกเราจะได้ขายน้ำกับแฮมเบอร์เกอร์ก่อน ซึ่ง Happy Chef จะบอกให้เรานำเนื้อลงไปย่างในกระทะ ในระหว่างนั้นเราก็ต้องนำขนมปังมาเตรียมไว้ในถาด พอเนื้อสุกได้ที่ก็จะมีสัญญาณเตือนให้เรานำเนื้อไปใส่ในขนมปัง จากนั้นก็ลากส่งให้ลูกค้าแล้วก็เก็บเงินได้เลย โดยทั้งหมดนี้ก็จะมีเวลาเป็นตัวกำหนด
เพื่อบอกให้เรารู้ว่าหมดวันแล้ว จากนั้นตัวเกมก็จะสรุปจำนวนลูกค้าที่ทำสำเร็จ, ลูกค้าที่พลาด, จำนวนรายได้ รวมไปถึงทิปส์จากลูกค้า ซึ่งเงินทั้งหมดที่ได้มาเราก็จะนำไปอัพเกรดของต่าง ๆ ภายในร้านทั้งขนาดของแก้วน้ำ, ขนาดของเฟรนช์ฟราย ไปจนถึงของตกแต่งอย่างพวกเก้าอี้, โคมไฟ, นาฬิกา เป็นต้น
เมื่อผ่านด่านการประกอบเนื้อกับขนมปังมาได้แล้ว แต่อย่าลืมว่าลูกค้าบางคนก็ต้องการผักไว้ตัดเลี่ยน ดังนั้น เราก็จะต้องเพิ่มผักเข้าไป ซึ่งนั่นยังไม่ท้าทายพอ เพราะว่าเราจะได้เพิ่มฮอทด็อกเข้ามาอีกอย่าง
ซึ่งตอนนี้ก็จะต้องย่างไส้กรอกเพิ่ม นอกจากนี้ก็ยังมีเฟรนช์ฟรายด้วย แล้วลูกค้าก็จะเริ่มเข้ามามากขึ้น โดยเทคนิคง่าย ๆ ของเกม Happy Chef ก็คือเราต้องย่างเนื้อกับไส้กรอกรอไว้แล้วค่อยเอาไปใส่ขนมปัง แต่ถ้าย่างไว้แล้วลืมจนเนื้อไหม้ก็สามารถโยนทิ้งลงถังขยะได้เลย
#แนะนำเกมมือถือ #เกมมือถือฟรี #รีวิวเกมมือถือ #Happy Chef